เอ็นไขว้หน้าเข่าขาด เรื่องไม่ควรประมาทของคนชอบเล่นกีฬา
เอ็นไขว้หน้าขาด เป็นอาการที่คนชอบเล่นกีฬา หรือผู้หญิงหลายๆ คนไม่ควรมองข้าม เพราะว่ามีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นเอ็นไขว้หน้าขาดหรืออักเสบได้ง่ายกว่าคนอื่น และสามารถส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ดังนั้น ในบทความนี้จึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเอ็นไขว้หน้าเข่าขาดกันมากขึ้น เพื่อที่จะได้สังเกตอาการของตัวเองว่าเป็นโรคนี้หรือไม่ และจะได้หาสาเหตุ พร้อมกับเข้ารับการตรวจวินิจฉัย และทำการรักษาอย่างถูกวิธี
เอ็นไขว้หน้าเข่าขาด คืออะไร?
เอ็นไขว้หน้าเข่าขาด (ACL Injury) เป็นภาวะที่เอ็นไขว้หน้า (ACL: Anterior Cruciate Ligament) ได้รับบาดเจ็บจนเกิดการฉีกขาด โดยเอ็นไขว้หน้านั้นเป็นเส้นเอ็นที่มีความสำคัญต่อการเดิน การทำกิจวัตรประจำวัน หรือการเคลื่อนไหวในการทำกิจกรรมต่างๆ เพราะว่าเป็นเส้นเอ็นที่มีหน้าที่สำคัญในการช่วยรักษาความมั่นคงของข้อเข่า ควบคุมการเคลื่อนไหว และป้องกันการบิดหมุนของข้อเข่า พร้อมกับช่วยล็อกข้อเข่าให้มั่นคง และไม่ให้มีอาการข้อเข่าไม่มั่นคงในขณะใช้งาน
เส้นเอ็นไขว้หน้ามักจะพบการบาดเจ็บได้บ่อย และสาเหตุของอาการบาดเจ็บนั้นมักจะมาจากการเล่นกีฬา หรือประสบอุบัติเหตุ ดังนั้น เมื่อได้รับการบาดเจ็บจนเอ็นไขว้หน้าขาดจึงควรรีบพบแพทย์ และเข้ารับการรักษาทันที ถ้าหากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เป็นโรคข้อเข่าเสื่อมตามมาในภายหลังได้
เอ็นไขว้หน้าขาด มีอาการอย่างไร?
เอ็นไขว้หน้าขาดนั้นมีหลากหลายอาการที่สามารถบ่งบอกได้ว่าผู้ป่วยเป็นโรคนี้หรือไม่ โดยเอ็นไขว้หน้าขาดมีอาการที่สามารถสังเกตได้ด้วยตัวเองทั้งหมด ดังนี้
- รู้สึกว่ามีเสียงลั่นในข้อเข่า
- รู้สึกเจ็บ หรือปวดบริเวณข้อเข่า
- ข้อเข่ามีอาการบวมอย่างเห็นได้ชัด
- ไม่สามารถเดินลงน้ำหนักได้อย่างเต็มที่
- รู้สึกเจ็บปวดรุนแรงจนไม่สามารถทำกิจกรรมต่อได้
- รู้สึกว่าข้อเข่าหลวม หรือไม่มั่นคงในขณะทำกิจกรรมต่างๆ
ถ้าหากผู้ป่วยสังเกต หรือพบว่ามีอาการดังกล่าวที่บ่งบอกได้ว่าตัวเองกำลังเป็นโรคเอ็นไขว้หน้าขาด ควรรีบเข้ารับการตรวจวินิจฉัย และเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันไม่ให้บาดเจ็บมากกว่าเดิม และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
นัดหมายแพทย์เพื่อปรึกษา และวินิจฉัยอาการได้ที่ 02-080-8999
Line @kdmshospital
สาเหตุที่ทำให้เอ็นไขว้หน้าขาด มีอะไรบ้าง?
สำหรับสาเหตุที่ทำให้เอ็นไขว้หน้าบาดเจ็บนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 สาเหตุหลัก ได้แก่ การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา และการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ โดยการเคลื่อนไหว หรือการบาดเจ็บที่เกิดจากทั้ง 2 สาเหตุจนทำให้เอ็นไขว้หน้าขาด หรืออักเสบ มีดังนี้
การเล่นกีฬา
การเล่นกีฬา เป็นสาเหตุที่ทำให้เอ็นไขว้หน้าขาดที่พบได้บ่อย เพราะว่าในการเล่นกีฬาบางชนิดนั้นจะต้องมีการเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว และว่องไวอยู่ตลอดเวลา อย่างเช่น การเล่นฟุตบอล บาสเกตบอล หรือรักบี้ รวมถึง เป็นกีฬาที่อาจมีการลงน้ำหนักไปที่ข้อเข่า ได้รับการปะทะ ถูกกระแทก หรือมีการหมุนข้อเข่าในขณะที่ยังเหยียดตรงอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้เส้นเอ็นไขว้หน้าได้รับบาดเจ็บ เอ็นไขว้หน้าอักเสบ หรือฉีกขาดได้
อุบัติเหตุ
การได้รับอุบัติเหตุ เป็นอีกสาเหตุหลักที่ทำให้เอ็นไขว้หน้าขาด หรือได้รับบาดเจ็บ โดยเกิดจากการที่ส่วนของข้อเข่าได้รับอุบัติเหตุโดยตรง หรือได้รับแรงกระแทกจากการได้รับอุบัติเหตุ เช่น หกล้ม ตกบันได ได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือว่าอุบัติเหตุเล็กๆ ที่ทำให้ข้อเข่าได้รับแรงกระแทก ก็สามารถทำให้เอ็นไขว้หน้าได้รับบาดเจ็บ หรือฉีกขาดได้เช่นกัน
ใครที่เสี่ยงต่อเอ็นไขว้หน้าขาดบ้าง?
ถึงแม้ว่าโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บจนเอ็นไขว้หน้าอักเสบ หรือเอ็นไขว้หน้าขาดนั้นอาจจะดูเหมือนสามารถเกิดขึ้นได้ยาก หรือเป็นเรื่องไกลตัวที่หลายๆ คนคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองได้ง่ายๆ แต่รู้หรือไม่ว่า ยังมีกลุ่มเสี่ยง 2 กลุ่มที่มีโอกาสเสี่ยงต่อเอ็นไขว้หน้าขาดง่ายกว่าๆ ผู้คนทั่วไป ดังนี้
ผู้หญิง
ผู้หญิงเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อเอ็นไขว้หน้าขาดมากกว่าผู้ชาย เพราะว่าผู้หญิงมีสรีระร่างกายที่แตกต่างจากผู้ชาย โดยสรีระของผู้หญิงนั้นข้อเข่าจะมีมุมมากกว่า และมักจะมีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อน้อยกว่า ทำให้เวลามีการเคลื่อนไหว เช่น การกระโดด หรือการทำกิจกรรมอื่นๆ ผู้หญิงมีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บบริเวณเอ็นไขว้หน้าได้ง่ายกว่า
นักกีฬา
นักกีฬา ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเสี่ยงสูงต่อเอ็นไขว้หน้าขาดเช่นกัน เพราะว่าสาเหตุที่ทำให้เอ็นไขว้หน้าขาดที่พบได้บ่อยมักจะมาจากการเล่นกีฬา และในขณะที่เล่นกีฬานั้นจะต้องมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา มีการเร่ง การหยุด การกระโดด และการเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว ทำให้ข้อเข่าอาจได้รับการกระชากจนทำให้เส้นเอ็นได้รับบาดเจ็บหรือเอ็นไขว้หน้าอักเสบได้ นอกจากนั้น ยังมีการถูกกระแทก หรือการปะทะกันในขณะเล่น ที่เพิ่มโอกาสเสี่ยงให้เอ็นไขว้หน้าหรือข้อเข่าได้รับบาดเจ็บเพิ่มมากขึ้น
เอ็นไขว้หน้าขาดต้องตรวจวินิจฉัยอย่างไร?
หลายๆ คนอาจจะมีข้อสงสัยว่า ถ้าหากสังเกตอาการของตัวเองแล้วพบว่ามีอาการที่บ่งบอกว่าเป็นเอ็นไขว้หน้าขาดจะต้องเริ่มรักษาอย่างไร? โดยวิธีการตรวจเอ็นไขว้หน้าขาดนั้น จะเริ่มจากการตรวจวินิจฉัยของแพทย์ ซึ่งในเบื้องต้นผู้ป่วยจะได้รับการซักประวัติ และตรวจร่างกาย เพื่อที่จะได้รู้ว่าเอ็นไขว้หน้าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ และอาจจะมีการเอกซเรย์ร่วมกับการทำ MRI เพื่อที่จะได้ตรวจดูการบาดเจ็บได้อย่างละเอียด และชัดเจนมากขึ้น รวมถึง มีการตรวจสอบอาการบาดเจ็บอื่นๆ ที่อาจจะพบร่วมกันกับเอ็นไขว้หน้าขาด เพื่อให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยแต่ละคนมากที่สุด
เอ็นไขว้หน้าขาดมีวิธีการรักษาอย่างไร?
สำหรับผู้ป่วยที่เอ็นไขว้หน้าขาด หรือเอ็นไขว้หน้าได้รับบาดเจ็บ อาจจะสงสัยว่าจะมีการรักษาเอ็นไขว้หน้าขาดอย่างไรบ้าง หรืออาจจะมีความกังวลในขั้นตอนการรักษา หรืออาการของตัวเอง เช่น เอ็นไขว้หน้าขาดไม่ผ่าได้ไหม สามารถหายเองได้ไหม หรือสามารถเดินได้ไหม เป็นต้น
เมื่อผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้าหัวเข่า อาจจะคิดว่าจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดอย่างแน่นอน แต่รู้หรือไม่ว่า การได้รับบาดเจ็บที่เอ็นไขว้หน้านั้นไม่จำเป็นต้องรับการรักษาโดยการผ่าตัดทุกราย แต่ว่าขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ความรุนแรง ระดับความบาดเจ็บ การทำกิจกรรมต่างๆ การใช้งานข้อเข่า หรืออาการไม่มั่นคงข้อเข่า เป็นต้น สำหรับผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บบางส่วน ทำกิจกรรม หรือใช้งานข้อเข่าโดยที่ไม่ได้มีการบิดหมุนของข้อเข่ามาก รวมถึงมีระดับความไม่มั่นคงของข้อเข่าไม่มาก สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการฟื้นฟูเอ็นไขว้หน้า และเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ พร้อมกับฝึกองศาการเคลื่อนไหวของข้อเข่า ฝึกการทรงตัว และการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง เพียงเท่านี้ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติได้
สำหรับผู้ป่วยบางรายอาจจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการผ่าตัดได้ อย่างเช่น ในกรณีที่ผู้ป่วยเอ็นไขว้หน้าขาดทั้งหมด เอ็นไขว้หน้าฉีกขาดบางส่วนแต่ข้อเข่ามีความไม่มั่นคงมาก ทำกิจกรรมที่ต้องมีการบิดหมุนข้อเข่ามาก หรือมีการบาดเจ็บในส่วนอื่นๆ ของข้อเข่าร่วมด้วย ก็จำเป็นต้องได้รับการรักษโดยการผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดเอ็นไขว้หน้า (ACL Reconstruction) หรือการผ่าตัดโดยนำเส้นเอ็นจากอวัยวะอื่นๆ มาใช้แทนเอ็นไขว้หน้า มักจะใช้วิธีการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ทำให้ผู้ป่วยสามารถฟื้นตัวได้เร็ว พร้อมกับรักษาร่วมกับการทำกายภาพบำบัด และการฟื้นฟูที่ถูกต้องเหมาะสม ส่งผลให้ข้อเข่าของผู้ป่วยกลับมามีความมั่นคง สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้เต็มที่ และสามารถทำกิจกรรม หรือเล่นกีฬาได้อย่างเป็นปกติ
นัดหมายแพทย์เพื่อปรึกษา และวินิจฉัยอาการได้ที่ 02-080-8999
Line @kdmshospital
เอ็นไขว้หน้าขาด เป็นอาการบาดเจ็บที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าเป็นแล้วมีโอกาสที่จะต้องเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัดสูง และถ้าหากเข้ารับการรักษาช้า ไม่ยอมเข้ารับการรักษา หรือได้รับการดูแลที่ไม่ดีพอ อาจทำให้ไม่สามารถกลับมาใช้งานได้อย่างปกติ และไม่สามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างสมบูรณ์เหมือนเดิม นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่จะเกิดการบาดเจ็บซ้ำ หรือมีการบาดเจ็บส่วนอื่นๆ ร่วมด้วย ดังนั้น ทุกคนจึงควรดูแลตัวเองให้ดี และให้ความสำคัญกับการเตรียมตัว อย่างการยืดเหยียดกล้ามเนื้อทั้งก่อน และหลังออกกำลังกาย รวมถึง การเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การทรงตัว และการเคลื่อนไหวที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันไม่ให้เอ็นไขว้หน้าฉีกขาด อักเสบ หรือได้รับอาการบาดเจ็บ
บทความโดย : นพ. นวพันธ์ วอกลาง ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การกีฬาและข้อไหล่