เป็นโรครองช้ำ รักษาอย่างไรดี ?

Key Takeaway
  • โรครองช้ำ  ในทางการแพทย์จะเรียกกันอีกชื่อว่า โรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ หรือ พังผืดฝ่าเท้าอักเสบ เป็นโรคที่ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บส้นเท้าบริเวณฝั่งที่เหยียบลงไปบนพื้น เกิดจากเส้นเอ็นพังผืดฝ่าเท้ามีการอักเสบ
  • อาการของโรครองช้ำ มีดังนี้ ลุกจากเตียงตอนเช้า ก้าวเท้าแล้วรู้สึกเจ็บ และในบางรายนั่งนานๆ เมื่อลุกเดินแล้วเจ็บเท้า 
  • สาเหตุของโรครองช้ำ เกิดจากเส้นเอ็นร้อยหวาย หรือพังผืดฝ่าเท้าตึงเกินไป ไม่ยืดหยุ่น หรือเกิดได้จากเส้นเอ็นเริ่มเสื่อมเมื่ออายุมากขึ้น และสวมใส่รองเท้าที่ไม่ถูกสุขลักษณะ 
  • การวินิจฉัยโรครองช้ำ แพทย์จะสอบถามว่ามีอาการ Morning Pain ตื่นเช้าลงเดินเจ็บก้าวแรก เดินต่อไปแล้วหายเจ็บ หรือเจ็บน้อยลงหรือไม่ ร่วมกับการตรวจฝ่าเท้าตรงบริเวณจุดกดเจ็บของจุดเกาะเส้นเอ็นพังผืด และหากเป็นมานานอาจใช้วิธีเอกซเรย์ หรืออัลตร้าซาวด์ร่วมด้วย 
  • การรักษาโรครองช้ำ สามารถทานยาร่วมกับการทำกายภาพบำบัด แต่หากยังไม่หายจะต้องรักษาด้วยการทำ Shockwave และในบางกรณีอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัด ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์  

“รองช้ำ” ถือเป็นหนึ่งในโรคที่เชื่อเหลือเกินว่าหลาย ๆ คนคุ้นชื่อ แต่ก็เชื่ออีกเช่นกันว่ามีคนอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่ไม่ทราบจริง ๆ ว่าเจ้าโรครองช้ำที่ว่านี้คือโรคอะไรกันแน่ และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ อาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังเป็นโรคนี้อยู่ แล้วปล่อยให้ส้นเท้าของตัวเองนั้นมีอาการเรื้อรัง จนสุดท้ายก็กลายเป็นรบกวนความสุขในการใช้ชีวิต ซึ่งเพื่อให้เรารู้เท่าทันโรคนี้ซึ่งเป็นโรคที่ไม่ว่าใครก็เป็นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่มีอาชีพต้องยืนนาน ๆ เดินทำงานหนัก ๆ การทำความรู้จักกับโรครองช้ำให้เข้าใจ ก็จะช่วยให้เราดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากภัยของโรครองช้ำได้มากขึ้น

Table of Contents

โรครองช้ำ คืออะไร?

โรครองช้ำ คืออะไร

“โรครองช้ำ” ในทางการแพทย์จะเรียกกันอีกชื่อว่า “โรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ” หรือ “พังผืดฝ่าเท้าอักเสบ” เป็นโรคที่ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บส้นเท้าบริเวณฝั่งที่เหยียบลงไปบนพื้น ซึ่งหากปล่อยให้เรื้อรังจะรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน คือ ไม่สามารถเดิน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เหมือนปกติ ทั้งนี้ สาเหตุของโรครองช้ำนั้น เกิดจากเส้นเอ็นพังผืดฝ่าเท้ามีการอักเสบ ซึ่งโดยปกติแล้ว ที่ฝ่าเท้าของเราทุกคนจะมีพังผืดฝ่าเท้าอยู่ และเมื่อพังผืดเส้นนี้เกิดอาการตึงจากการใช้งานโดยที่เราไม่ได้ทำการยืดเหยียดให้ดี ก็จะทำให้เกิดการอักเสบที่จุดเกาะพังผืดบริเวณส้นเท้า และเกิดเป็นอาการเจ็บในที่สุด

อาการของโรครองช้ำ

หากใครที่รู้สึกว่ากำลังเป็นโรครองช้ำอยู่หรือไม่ ลองสังเกตอาการได้ดังต่อไปนี้ 

1.ลุกจากเตียงตอนเช้า ก้าวเท้าแล้วรู้สึกเจ็บ

สัญญาณสำคัญที่สุด คือ First Step Pain หรือ Morning Pain ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการตื่นเช้ามาแล้ว ก้าวแรกที่ลุกจากเตียงลงเดินจะรู้สึกเจ็บ เพราะตอนกลางคืนที่นอนหลับ เอ็นจะไม่ได้ใช้งาน เอ็นจึงเคยชินอยู่ในท่าที่หย่อน แต่เมื่อตื่นลุกขึ้นก้าวลงเดินจากเตียง เอ็นจะถูกดึงให้ยืดกลับมาเพื่อใช้งาน จึงทำให้เกิดอาการเจ็บแปลบขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเดินต่อเนื่องไปสักประมาณ 5-10 นาที เอ็นก็จะเริ่มกลับมายืดหยุ่นเป็นปกติ ทำให้อาการเจ็บน้อยลง

2.นั่งนานๆ เมื่อลุกเดินแล้วเจ็บเท้า

ทั้งนี้ อาการ Morning Pain อาจไม่ได้จำเป็นจะต้องเกิดขึ้นแค่เฉพาะการเดินหลังจากที่ตื่นนอนตอนเช้าเท่านั้น แต่จะเกิดได้จากการเดิน หลังจากที่เรานั่งนานๆ โดยที่ไม่ได้ใช้งานเท้า เมื่อกลับมาเดินจึงเกิดอาการเจ็บอีกก็ได้เช่นกัน 

สำหรับโรครองช้ำในช่วงแรกๆ ที่เป็นนั้น เหมือนจะเป็นๆ หายๆ  อาการยังเป็นไม่มาก จึงทำให้หลายคนอาจเพิกเฉย แต่หากปล่อยทิ้งไว้นาน ตัวโรคก็จะทวีความรุนแรงขึ้นได้ โดยจะทำให้เราเจ็บมากขึ้น เดินไม่ได้นานเหมือนปกติ จนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน

3 สาเหตุที่กระตุ้นให้เสี่ยงเป็นโรครองช้ำ

สำหรับสาเหตุปัจจัยที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรครองช้ำ ได้แก่

1.เส้นเอ็นร้อยหวาย หรือพังผืดฝ่าเท้าตึงเกินไป ไม่ยืดหยุ่น 

อาจเกิดได้จากการไม่ค่อยได้ยืดคลายเส้นเอ็น ใช้งานอย่างเดียว เช่น ยืนนาน ๆ เดินนาน ๆ แล้วไม่เคยยืดเส้นเอ็นเลย น่องก็จะตึง พังผืดฝ่าเท้าก็จะตึง และทำให้เป็นโรครองช้ำในที่สุด

2.เส้นเอ็นเริ่มเสื่อม 

เมื่ออายุมากขึ้น ยิ่งเป็นคนที่มีน้ำหนักมาก ประกอบอาชีพที่ต้องยืน เดินทั้งวัน ก็จะยิ่งเสี่ยงเป็นรองช้ำได้ง่ายกว่าคนปกติ ซึ่งเส้นเอ็นที่เริ่มเสื่อมนั้นจะมีลักษณะคล้ายกับเส้นเชือกที่ใช้งานมานาน มีอาการบวม อักเสบ จึงทำให้เจ็บบริเวณบริเวณส้นเท้า

3.สวมใส่รองเท้าที่ไม่ถูกสุขลักษณะ 

แล้วใช้งานเท้าหนักเกินไป เช่น ใส่รองเท้าพื้นแข็ง แล้วยืนนาน ๆ ยืนตลอดทั้งวัน ทำงานที่ต้องเดินทั้งวัน รวมถึงผู้ที่ใช้งานเท้าหนักเกินไป ก็จะทำให้เป็นรองช้ำได้

การวินิจฉัยโรครองช้ำ

เมื่อผู้ป่วยเข้ามาพบแพทย์ด้วยอาการเจ็บส้นเท้า แล้วสงสัยว่าเป็นโรครองช้ำ แพทย์จะมีวิธีการวินิจฉัยด้วยการทำตามแนวทาง ดังต่อไปนี้

1.ซักประวัติตรวจร่างกาย 

แพทย์จะสอบถามว่ามีอาการ Morning Pain ตื่นเช้าลงเดินเจ็บก้าวแรก เดินต่อไปแล้วหายเจ็บ หรือเจ็บน้อยลงหรือไม่ ร่วมกับการตรวจฝ่าเท้าตรงบริเวณจุดกดเจ็บของจุดเกาะเส้นเอ็นพังผืด ซึ่งหากมีประวัติ Morning Pain และกดจุดแล้วเจ็บที่ส้นเท้า ก็เพียงพอให้วินิจฉัยได้ว่าเป็นโรครองช้ำ

2.เอกซเรย์ 

สำหรับผู้ป่วยโรครองช้ำนั้น เมื่อเส้นเอ็นเกิดการอักเสบตรงจุดเกาะพังผืดเป็นเวลานาน ๆ หลายปี ร่างกายจะมีการสร้างแคลเซียมมาพอกเอาไว้ ทำให้เมื่อเอกซเรย์ตรวจสอบจะพบจงอยกระดูกตรงบริเวณส้นเท้าของจุดเกาะเส้นเอ็น ดังนั้นการเอกซเรย์จึงเป็นหนึ่งในหนทางช่วยยืนยันการวินิจฉัยได้เป็นอย่างดีว่าเป็นโรครองช้ำหรือไม่ หากพบว่ามีกระดูกงอกทิ่มเส้นเอ็นอยู่

3.อัลตร้าซาวด์ 

เป็นการตรวจเพื่อดูว่าเส้นเอ็นหนาหรือบวมอักเสบหรือไม่ โดยสำหรับผู้ที่เป็นโรครองช้ำนั้น ทำอัลตราซาวด์จะพบว่า เส้นเอ็นพังผืดฝ่าเท้าจะมีลักษณะบวมหนามากกว่าปกติ ซึ่งบ่งบอกว่าเส้นเอ็นนั้นมีการอักเสบ

วิธีการรักษาโรครองช้ำ ทำได้อย่างไรบ้าง

วิธีการรักษาโรครองช้ำ ทำอย่างไรได้บ้าง

1.ทานยาร่วมกับการทำกายภาพบำบัด 

สำหรับการักษาด้วยวิธีนี้ เป็นแนวทางการรักษาในกรณีเพิ่งเป็นโรคไม่นาน มีอาการไม่มาก และไม่เคยได้รับการรักษามาก่อน แพทย์จะให้ทานยาลดอักเสบ ยาคลายกล้ามเนื้อ ร่วมกับการปรับพฤติกรรมให้เดินน้อยลง สวมใส่รองเท้าที่มีพื้นนิ่ม พร้อมกับแนะนำวิธีการยืดน่อง เพื่อให้เอ็นยืดหยุ่น รวมถึงการทำกายภาพบำบัดด้วยการนวดฝ่าเท้า เพื่อให้ตัวพังผืดนิ่มลง ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบลงได้

2.รักษาด้วยการทำ Shockwave

การรักษาด้วยการทำ Shockwave เป็นการรักษาในกรณีที่ทานยาร่วมกับการทำกายภาพบำบัดแล้วไม่หาย หรือในกรณีที่ผู้ป่วยต้องการรักษาให้หายไวขึ้น โดยการ Shockwave นั้น จะเป็นการใช้เครื่องมือการรักษายิงคลื่นเสียงเข้าไปกระแทกบริเวณจุดเกาะเอ็นพังผืดที่บาดเจ็บตรงส้นเท้า เพื่อกระตุ้นการลดการอักเสบ โดยมีงานวิจัยรองรับชัดเจนว่าการใช้คลื่นเสียงนี้ สามารถช่วยรักษาโรครองช้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 3.รักษาด้วยการผ่าตัด 

โดยทั่วไปแล้วแนวทางการรักษา 2 วิธีแรก ได้แก่ การทานยา ทำกายภาพบำบัด ร่วมกับการทำ Shockwave นั้น สามารถทำให้ผู้ป่วย 80-90% อาการทุเลาลงและกลับมาหายดีได้ จะมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่อาการไม่ดีขึ้น ซึ่งในผู้ป่วยกลุ่มนี้ แพทย์จะพิจารณารักษาด้วยการผ่าตัดพังผืดฝ่าเท้าบางส่วนออก เพื่อให้เอ็นลดความตึงลง ซึ่งเมื่อเอ็นหย่อนคลายมากขึ้น อาการเจ็บจากรองช้ำก็จะหายไป

ปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ห่างไกลจากโรครองช้ำ

ปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ห่างไกลจากโรครองช้ำ

แม้รองช้ำจะเป็นโรคใกล้ตัวที่ใครก็เป็นได้ และมีส่วนสัมพันธ์กับพฤติกรรมการใช้ชีวิต แต่เราทุกคนก็สามารถดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคนี้ได้แบบไม่ยากเลย เพียงแค่เข้าใจสาเหตุของการเกิดโรค และปฏิบัติตัวตามแนวทางง่าย ๆ ดังต่อไปนี้

1.หมั่นยืดเหยียดคลายเส้นเอ็น 

ยืดเส้นเอ็นกล้ามเนื้อน่องบ่อยๆ โดยเฉพาะในคนที่มักมีอาการน่องตึงเสมอ จากการทำงานหนัก ยืนนานๆ เดินเยอะๆ แม้จะยังไม่ได้ป่วยเป็นโรครองช้ำ หรือยังไม่ได้มีอาการเจ็บส้นเท้า ก็ควรหมั่นยืดเส้นเอ็นเป็นประจำ เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรครองช้ำ รวมถึงยังมีประโยชน์อื่นๆ ด้วย คือ ช่วยทำให้เราไม่เป็นตะคริว ทำให้เส้นเอ็นยืดหยุ่นแข็งแรง ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เดินได้ไกลขึ้น นานขึ้น โดยไม่มีอาการปวดตึงน่อง

2.สวมใส่รองเท้าที่เหมาะสม 

ไม่ใส่รองเท้าแตะที่มีพื้นแข็งๆ โดยรองเท้าที่แนะนำคือรองเท้ากีฬา รองเท้าวิ่งที่พื้นรองเท้านิ่มๆ ยิ่งในคนที่มีน้ำหนักตัวมาก และต้องทำงานที่เดินเยอะๆ ยืนนานๆ ก็ยิ่งควรต้องใส่รองเท้าที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้นหากเลือกใส่รองเท้าพื้นแข็ง ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นรองช้ำได้ง่ายมากขึ้น

รักษาโรครองช้ำที่ kdms ดีอย่างไร

ผู้ที่กังวลว่าเสี่ยงจะเป็นโรครองช้ำ ไม่ควรปล่อยไว้นาน เพราะอาจส่งผลต่อการใช้ ชีวิตประจำวันได้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีการวินิจฉัยที่ถูกต้อง แม่นยำ นำไปสู่แผนการรักษาที่ตอบโจทย์คนไข้แต่ละบุคคล 

ฉะนั้นการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล kdms Hospital จะช่วยสร้างความมั่นใจ และความอุ่นใจให้กับคนไข้รวมถึงญาติที่คอยดูแลคนไข้ได้ เพราะทุกๆ ขั้นตอนตั้งแต่การวินิจฉัยตลอดจนการติดตามผลการรักษา รวมถึงการฟื้นฟูจากอาการที่เป็นอยู่ จะดูแลโดยแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกระดูกและข้อโดยตรง

สรุป

ในความเป็นจริงแล้ว รองช้ำไม่ได้เป็นโรคอันตรายร้ายแรง และรักษาได้ไม่ยากเลย แต่ถ้าปล่อยเอาไว้นานวันไปโดยไม่ได้รักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดส้นเท้าจนรบกวนความสามารถในดำเนินชีวิตประจำวันได้ ซึ่งเมื่อมารักษาในระยะที่เป็นรุนแรงแล้ว ก็จะต้องใช้เวลานานมากขึ้นกว่าจะกลับมาหายเป็นปกติ

ดังนั้น หากสำรวจตัวเองแล้วพบว่ามีอาการเดินแล้วเจ็บส้นเท้า โดยเฉพาะอาการ Morning Pain ที่มักเจ็บตอนเช้าตั้งแต่ก้าวแรกที่ลงจากเตียง ก็ให้ชวนสงสัยว่ามีโอกาสเป็นโรครองช้ำได้ และควรรีบมาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจวินิจฉัยให้มั่นใจ ซึ่งหากเป็นจริงก็จะได้ดำเนินการรักษาให้หายดีโดยเร็ว เพื่อให้โรคไม่ลุกลาม และกลับมาใช้ชีวิต เดินเหิน ทำงาน เล่นกีฬา ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างเป็นปกติสุขอีกครั้ง

บทความโดย นพ.กรกช ธรรมผ่องศรี ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเท้าและข้อเท้า

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

Play Video

ปรึกษาอาการก่อนนัดพบแพทย์

ศุกร์, 09 พ.ค. 2025
แท็ก
รองช้ำ
ปวดส้นเท้า
เอ็นร้อยหวาย
เอ็นฝ่าเท้าอักเสบ
พังผืดฝ่าเท้า
ฝ่าเท้า
รักษารองช้ำ
แพทย์ที่เกี่ยวข้อง

แพ็กเกจและโปรโมชั่นที่เกี่ยวข้อง
  อาการปวดที่รบกวนชีวิตประจำวัน อาจจะเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพกระดูกและข้อที่ต้องได้รับการดูแล อย่าปล่อยให้อาการเล็กน้อยกลายเป็นเรื่องใหญ่  ...
package 1800 บาท
package สิ้นสุด 31/12/2025
บทความอื่นๆ
ข้อเท้าบวมเกิดจากอะไร รู้สาเหตุ อาการ วิธีรักษา และสัญญาณที่ควรพบแพทย์
ข้อเท้าบวมเกิดจากอะไร รู้สาเหตุ อาการ วิธีรักษา และสัญญาณที่ควรพบแพทย์
รู้ไหม เมื่อปวดส้นเท้า เราเสี่ยงเป็นโรคอะไรได้บ้าง
รู้ไหม เมื่อปวดส้นเท้า เราเสี่ยงเป็นโรคอะไรได้บ้าง
วิธีเลือกรองเท้าเพื่อสุขภาพให้เหมาะสม แก้ปัญหาปวดเท้า โรครองช้ำ
วิธีเลือกรองเท้าเพื่อสุขภาพให้เหมาะสม แก้ปัญหาปวดเท้า โรครองช้ำ
เอ็นร้อยหวายอักเสบ ปวดเอ็นร้อยหวาย เสี่ยงอักเสบและฉีกขาด! เจาะลึกสาเหตุ อาการ รักษา และวิธีป้องกันดูแลตัวเองก่อนจะสายเกินไป
top line line
The #1 medical tourism platform