บทความ /

แม่นยำ ปลอดภัย เมื่อใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเสื่อม

ข้อเข่าเสื่อม ถือเป็นหนึ่งในโรคร้ายที่ส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิตในช่วงบั้นปลายของผู้สูงวัย ให้ไม่มีความสุข ขาดอิสระในการเคลื่อนไหว ไม่สามารถทำกิจกรรมที่อยากทำได้ ตลอดจนอาจบั่นทอนความรู้สึกว่ามีคุณค่าในตัวเองลงด้วย เพราะต้องกลายเป็นภาระลูกหลานหรือคนรอบข้างอยู่ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามข้อเข่าเสื่อมก็เป็นโรคที่ผ่าตัดรักษาให้หายดีกลับมามีเข่าที่ไม่เจ็บปวด และเคลื่อนไหวได้เหมือนปกติ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด ยิ่งปัจจุบันมี “เทคโนโลยีการช่วยผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์” จึงยิ่งทำให้การผ่าตัดมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

การผ่าตัดข้อเข่าเสื่อมด้วยหุ่นยนต์ คืออะไร?

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่านั้นเป็นการผ่าตัดเพื่อทำให้เข่าที่เสื่อม กลับมาใช้งานได้ดีใกล้เคียงเหมือนเข่าปกติธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบัน ก็ได้มีการพัฒนาวิธีการผ่าตัดให้ดี และมีคุณภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือ มุ่งหวังให้เป็นการผ่าตัดเพียงครั้งเดียว เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถใช้งานข้อเข่าใหม่ที่เปลี่ยนแล้วไปได้ตลอดชีวิต ซึ่ง “การผ่าตัดข้อเข่าด้วยหุ่นยนต์” หรือ “Robotic Assisted Joint Replacement Surgery” ถือเป็นเทคโนโลยีทันสมัยล่าสุด ที่มีบทบาทในการช่วยทำให้ศัลยแพทย์ วางแผน และดำเนินการผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ มีประสิทธิภาพ และให้ผลสำเร็จที่มีคุณภาพสูงขึ้น

การผ่าตัดข้อเข่าด้วยหุ่นยนต์ ดีกว่าการผ่าตัดปกติอย่างไรบ้าง?

การผ่าตัดข้อเข่าด้วยหุ่นยนต์ ถือเป็นทางเลือกใหม่ในการผ่าตัดรักษาข้อเข่าเสื่อม ที่มีประสิทธิภาพความโดดเด่นมากกว่าการผ่าตัดแบบดั้งเดิมทั่วไป ดังต่อไปนี้

มีความแม่นยำสูง ลดโอกาสผิดพลาดให้เหลือน้อยที่สุด

แม้ว่าศัลยแพทย์ผ่าตัดจะมีความชำนาญ และประสบการณ์สูงเพียงใด โอกาสในการผ่าตัดผิดพลาดที่เกิดจากความเป็นมนุษย์ หรือ Human Error ก็ยังคงเกิดขึ้นได้ การใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า จะช่วยทำให้โอกาสผิดพลาดลดน้อยลง เพราะมีความแม่นยำสูง มีโอกาสผิดพลาดได้แค่เพียง 1 องศา หรือ 1 มิลลิเมตร เท่านั้น ซึ่งหากเปรียบเทียบกับการผ่าตัดปกติ จะมีโอกาสผิดพลาดคลาดเคลื่อนที่มากกว่า 3 องศา ได้ถึง 10-15 % แม้ว่าเป็นการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้วก็ตาม

ช่วยในการวางแผนผ่าตัดให้เหมาะสมกับข้อเข่าเฉพาะแต่ละบุคคล

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเป็นการผ่าตัดที่มีความละเอียดอ่อน เพราะข้อเข่าของแต่ละคนมีโครงสร้างของกระดูกและความยืดหยุ่นของเส้นเอ็นรอบข้อที่แตกต่างกัน จึงต้องอาศัยการวางแผนการผ่าตัด อาทิ ตำแหน่งการวางข้อเข่าเทียม องศา มุมในการผ่าตัด ฯลฯ  เพื่อให้เกิดความสมดุลและเหมาะสมกับแต่ละบุคคลให้ได้มากที่สุด ซึ่งการรักษาด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด จะทำให้แพทย์วางแผนได้อย่างแม่นยำเหมาะสมมากขึ้น โดยจะมีการแสดงเป็นตัวเลขประเมินให้เห็นชัดเจนทั้งก่อนและหลังผ่าตัดเลยว่า ผลลัพธ์เป็นไปอย่างที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่ จึงทำให้ผู้ป่วยแต่ละคนได้รับผลลัพธ์ของการผ่าตัดที่เหมาะกับข้อเข่าของตัวเองมากที่สุด

ลดโอกาสภาวะแทรกซ้อน หรืออาการบาดเจ็บอื่น ๆ เนื่องจากการผ่าตัด

โดยปกติแล้วการผ่าตัดข้อเข่าทั่วไป อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บบริเวณเส้นเอ็น เส้นเลือด และเส้นประสาทโดยรอบได้ แม้ว่าโอกาสจะเกิดขึ้นได้น้อยมาก แต่หากเกิดขึ้นสามารถส่งผลเสียที่ร้ายแรงต่อผู้ป่วยได้ แต่เมื่อมีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดคอยช่วยเตือน ช่วยบังคับทิศทางในการบังคับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการผ่าตัด ไม่ให้ผิดพลาดไปในตำแหน่งที่ไม่ได้วางแผนเอาไว้ โอกาสในการเกิดผลแทรกซ้อนระหว่างการผ่าตัดจึงเกิดได้น้อยลง ทำให้การผ่าตัดมีความปลอดภัยมากขึ้น และมีโอกาสบาดเจ็บจากการผ่าตัดน้อยลง

แผลผ่าตัดเล็กเหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคน เจ็บน้อยลง และฟื้นตัวเร็ว

ด้วยความแม่นยำของการใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดข้อเข่าเสื่อม จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องเปิดแผลใหญ่เกินความจำเป็น แผลผ่าตัดจึงมีขนาดเล็กเท่าที่เหมาะสมกับขนาดขาของผู้ป่วยแต่ละคน นอกจากนั้นหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดยังช่วยจัดสมดุลความตึงตัวของข้อเข่าอย่างแม่นยำและวัดผลได้ ส่งผลให้การบาดเจ็บของเนื่อเยื่อรอบข้อจากการผ่าตัด เช่น การตัดกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นก็จะน้อยลง จึงช่วยให้ความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดน้อยลง ฟื้นตัวได้เร็วและกลับบ้านได้ไวขึ้น

ขั้นตอนการรักษาเป็นอย่างไร เมื่อใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า?

  1. เริ่มต้นด้วยการทำเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ CT Scan ข้อเข่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผ่าตัดให้มีความแม่นยำที่สุด
  2. นำภาพ CT Scan ข้อเข่าที่ได้ มาสร้างเป็นภาพ 3 มิติ หลังจากนั้นจึงเริ่มวางแผนในการวางตำแหน่งข้อเข่าเทียม และการผ่าตัด เพื่อให้ได้ผลการผ่าตัดที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายมากที่สุด
  3. นัดหมายวันผ่าตัด ซึ่งปกติจะภายในประมาณ 2-3 วันหลังจากวางแผนการผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย
  4. เมื่อถึงวันผ่าตัด แพทย์จะตรวจดูข้อเข่าจริงอีกครั้ง โดยเทียบกับภาพเสมือนที่ทำไว้ในขั้นตอนการวางแผนผ่าตัด เพื่อปรับสมดุล ความตึง การเหยียด งอ เส้นเอ็นรอบ ๆ ข้อเข่า ให้ได้ตำแหน่งการวางข้อเข่าเทียมที่เหมาะสมกับผู้ป่วยจริง
  5. เมื่อได้ตำแหน่ง และแผนการผ่าตัดที่พอใจ ศัลยแพทย์จะใช้หุ่นยนต์ที่เป็น “แขนกล” ติดเลื่อยและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ผ่าตัดข้อเทียม เข้าช่วยในการผ่าตัด โดยแพทย์จะยังคงเป็นผู้ดำเนินการผ่าตัด โดยมีแขนกลของหุ่นยนต์เป็นเสมือนแขนที่ 3 คอยตรวจสอบตำแหน่ง ทิศทาง ในการผ่าตัดไม่ให้ผิดพลาดออกนอกกรอบพื้นที่ที่วางแผนเอาไว้ ซึ่งหากแพทย์มีการลงมีดผ่าตัดผิดพลาดเกินตำแหน่ง หุ่นยนต์จะล็อกมือของแพทย์ไม่ให้สามารถผ่าตัดผิดพลาดได้เกิน 1 มิลลิเมตร
  6. เมื่อดำเนินการผ่าตัดข้อเข่าเสื่อมออกแล้ว แพทย์จะนำข้อเข่าเทียมใส่ให้แทน และใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของหุ่นยนต์ ตรวจสภาพความเหมาะสมของตำแหน่ง และการเหยียด งอ เคลื่อนไหวอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อเทียมที่ใส่เข้าไป อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  7. หลังผ่าตัดในวันรุ่งขึ้น ผู้ป่วยจะได้รับการฝึกยืน เดิน โดยภายใน 1-2 วันหลังผ่าตัดแพทย์ จะฝึกให้เดินไปห้องน้ำด้วยตัวเองได้ โดยใช้ Walker ช่วย และเมื่อเริ่มเดินได้คล่อง ก็จะทำกายภาพ จนเมื่อเดินขึ้นลงบันไดได้แล้ว ก็กลับบ้านได้ ซึ่งรวมระยะเวลาหลังจากผ่าตัดจนกลับบ้านนั้น จะมีมาตรฐานของการฝึกจะอยู่ที่ไม่เกิน 3-4 วัน

ชีวิตหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าด้วยหุ่นยนต์เป็นอย่างไร ทำกิจกรรมใช้ชีวิตเหมือนปกติได้มากน้อยแค่ไหน?

เป้าหมายสูงสุดในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า คือการผ่าครั้งเดียวเพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาใช้เข่าได้เหมือนปกติมากที่สุด ซึ่งปัจจุบันประสิทธิภาพในการผ่าตัดสำเร็จจะอยู่ที่ 95% โดยผู้ป่วยสามารถใช้เข่าใหม่ไปได้ 10-20 ปี หรือสำหรับผู้สูงวัยก็คือตลอดชีวิต โดยที่ไม่ต้องผ่าซ้ำอีก ซึ่งหลังผ่าตัด และทำกายภาพบำบัดดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์แล้ว จะสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ขึ้นลงบันไดได้ โดยไม่เจ็บปวดอีก รวมถึงอาการเข่าโก่ง งอ ผิดรูป ก็จะหายไปด้วย กลับมามีขาที่เหมือนธรรมชาติตามเดิม

อย่างไรก็ตาม การจะกลับไปถึงขั้นนั่งพับเพียบ นั่งยอง ๆ นั่งขัดสมาธิได้อย่างสมบูรณ์นั้น จะต้องอาศัยการฝึกฝนและการดูแลตัวเองของผู้ป่วยร่วมด้วย ตั้งแต่เรื่องความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ การหมั่นทำกายภาพ การควบคุมน้ำหนัก ซึ่งร่างกายของผู้ป่วยแต่ละคนก็แตกต่างกัน ดังนั้น หากเป้าหมายคือการกลับไปทำกิจกรรม Floor Activity ทุกอย่างได้เหมือนเดิม นอกจากผลสำเร็จของการผ่าตัดแล้ว ก็ยังต้องอาศัยแรงกายแรงใจในการพยายามดูแลตัวเองของผู้ป่วยร่วมด้วย

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าด้วยหุ่นยนต์ ไม่ใช่การใช้หุ่นยนต์ผ่าตัดแทนศัลยแพทย์ แต่เป็นการผ่าตัดโดยอาศัยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของแพทย์ ร่วมกับเทคโนโลยีที่จะทำให้โอกาสในความผิดพลาดจากความเป็นมนุษย์ลดน้อยลงให้ได้มากที่สุด จึงเกิดเป็นการผสมผสานกันระหว่างความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและเทคโนโลยีทันสมัย ที่ทำให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด มีความแม่นยำ ปลอดภัยสูง ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมกลับมาดีได้เหมือนปกติ ใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ไร้กังวลเรื่องเข่า ทำกิจกรรมกับครอบครัวลูกหลานได้อย่างที่ใจปรารถนา การตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าด้วยหุ่นยนต์ ก็ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ตอบโจทย์ ที่จะช่วยให้บั้นปลายชีวิตช่วงสุดท้ายมีความสุขได้อย่างเต็มที่

บทความจาก : รศ.นพ. ระพีพัฒน์ นาคบุญนำ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดข้อเข่าและข้อสะโพกเทียม

Wed, 29 Dec 2021
แท็ก
เข่าเสื่อม
หุ่นยนต์ผ่าตัดเข่า
หุ่นยนต์ผ่าตัดเข่าเสื่อม
หุ่นยนต์ผ่าตัด
Related doctors

Related packages
Total Knee Arthroplasty  (TKA) on one side using MAKO robotic surgery technology performed by a team of knee and hip replacement surgeons....
package 445,000* บาท
package สิ้นสุด 31/12/2024
Hip Arthroplasty using MAKO robotic surgery technology to enhance precision in surgical procedures performed by a team of knee and hip replacement surgeons....
package 506,000* บาท
package สิ้นสุด 31/12/2024
บทความอื่นๆ
การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม วิธีการรักษาโรคข้อสะโพกเสื่อม
กระดูกสะโพกหัก โรคใกล้ตัวสูงวัยที่เราอาจมองข้าม
รวมโรคข้อเข่าที่คนชอบเล่นกีฬา ควรระวัง
แม่นยำ ปลอดภัย เมื่อใช้หุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเสื่อม
top line line